Hitzuja 's Home: BitTorrent เป็นอย่างไร เห็นใครๆก็ใช้กัน ?

หนัง เกม เพลง โปรแกรม สารคดี ที่ไหนจะมีเอาทุกอย่างมารวมกันแบบนี้บ้าง คงจะมีล่ะครับ แต่คงหายากน่าดู แต่สำหรับบางคนแล้วไม่ใช่เรื่องยากเกินไปถ้าเขารู้จั ก BitTorrent ... วันหนึ่งผมเห็นเพื่อนกำลังโหลดหนังอยู่ แบ่งเป็น Part มากมาย ... ผมก็เลยบอกว่า "ถ้าลำบากนักก็ Torrent เถอะ!" คำถามที่ตามมาคือ "Torrent คืออะไรว่ะ?" โอ้ววววว ... นี่ล่ะครับ เหตุผลที่จะเขียนบทความนี้ ใครที่ยังงงแบบเพื่อนผมวันนี้ผมจะพาไปดูให้รู้กันครับ

BitTorrent คืออะไร ? BitTorrent เป็นโพรโทคอล (Protocol กฏเกณฑ์ รูปแบบหรือวิธีของการสื่อสาร เช่น Protocol ของคนไทยคือ ภาษาไทย) รูปแบบ peer-to-peer (P2P) ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย กันโดยตรง ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยมีต้นกำเนิดมาจากความคิดของ Bram Cohen ที่ต้องการให้การส่งผ่านข้อมูลสามารถอำนวยประโยชน์ได้ทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งเขาเริ่มพัฒนามันขึ้นมาตั้งแต่เดือน เมษายน ค.ศ. 2001

Bram Cohen (แบรม โคเฮน)
- นี่ล่ะครับบิดาแห่ง BitTorrent -

BitTorrent ทำงานอย่างไรบ้าง ? เครือข่ายของการใช้โปรแกรมบิตทอร์เรนต์นั้นเป็นลักษณ ะโยงใยถึงกันหมด ทุกเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถรับส่งไฟล์ถึงกันได้ตลอด เวลา ซึ่งทุกเครื่องจะเป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ (อาจจะใช้คำว่า Full-Duplex ก็ได้นะครับ หมายถึงทั้งรับ/ส่งไปพร้อมๆกันได้)

เมื่อ ไฟล์เริ่มต้นเผยแพร่มาจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ ่ง (Seed หรือเรียกว่าคนปล่อย) เครื่องอื่นๆ ที่ต้องการไฟล์ (Leech หรือเรียกว่าคนดูด) ก็จะค่อยๆ ได้รับชิ้นส่วนไฟล์ไปทีละชิ้นทีละชิ้นแบบสุ่ม เหมือนภาพต่อจิ๊กซอว์ ...

ทันทีที่ได้รับชิ้นส่วนไฟล์มา คอม พิวเตอร์เครื่องนั้นก็สามารถส่งต่อชิ้นส่วนไฟล์ที่ ได้รับมาแล้วให้ เครื่องอื่นที่ยังไม่มีได้ทันที ไม่ต้องรอให้ตัวเองได้ชิ้นส่วนไฟล์จนครบ 100% เสียก่อน เป็นลักษณะของการเติมเต็มให้กัน ชิ้นส่วนไฟล์ตรงใหนที่ขาดไป สุดท้ายแล้วก็จะได้รับมาจากคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื ่องหนึ่งในเครือข่ายใน ที่สุด ด้วยสาเหตุนี้เอง โปรแกรมบิตทอร์เรนต์จึงสามารถทำให้การส่งผ่านข้อมูลส ามารถอำนวยประโยชน์ได้ ทั้งขาเข้าและขาออก ตามรูปนี้ล่ะครับ

ถ้านึกถึงในทางพระพุทธศาสนาแล้วนะครับ ผมนึกถึงคำว่า "อนุโมทนาบุญ" ครับ Seed คือคนที่ไปทำบุญมา เริ่มด้วยการเปิด Port สื่อสารก็คือเปิดปากด้วยกาใช้ Protocol เป็นคำศัพท์ทางพุทธศาสนา ด้วย Package หรือ Message คือคำว่า "อนุโมธนาบุญ" ส่วนทาง Leech ก็แค่เปิด Port เช่นกันและการตอบรับ Package ต้องส่ง Package กลับไปให้ Seed ว่า "สาธุ" หรือแปลว่า "ดีแล้ว" นับว่าได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายนะครับ เพราะ Seed บุญก็ไม่ได้ลดลงไปแม้แต่นิด ส่วน Leech ก็ได้บุญด้วย !!! ... น่าจะไปเขียนหนังสือ "คอมพิวเตอร์ถาม พระพุทธเจ้าตอบ" นะครับ

ก่อนการใช้งานต้องมีโปรแกรมที่เรียกว่า Torrent-Client ก่อน (BitComet, uTorrent, Transmiter, Azureus และอื่นๆ) หลังจากนั้นจึงจะสามารถไปดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์บิ ตทอร์เรนต์ต่างๆ ได้ โดยในปัจจุบันเว็บไซต์ BitTorrent มี 2 ประเภท คือ Open และ Close

Open ก็คือเปิดครับ ในที่นี้หมายถึงเสรีผ่านไปผ่านมาแวะมาโหลดไปได้ ไม่มีใครห้าม ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่ต้องเป็นสมาชิก ข้อ ดีคือไม่เสียเวลาและไม่ลำบากครับ แต่ข้อเสียมากกว่าดีครับ ในเมื่อไม่มีกฏเกณฑ์ใดมาควบคุมแล้ว Seed คนปล่อยจะน้อยกว่า Leech คนดูดครับ ดังนั้นเมื่อโหลดไฟล์เสร็จแล้วก็จากไปทันที เช่น PirateBay (คนชอบล้อเลียนว่า PirateGay) , ReactorTorrent ...

Close ก็ปิดครับ คือคนส่วนน้อยจะมีสิทธิ์ในการเว็บนี้ ต้องได้รับเชิญมาเป็นพิเศษหรือเรียกว่าแจก Invite นั้นเอง !!! คนนอกก็เลยหมดสิทธิ์ไปเลย ... เว็บประเภทนี้มีกฏระเบียบที่สมาชิกทุกคนจำเป็นต้องทำ ตาม เช่น Ratio อัตราส่วนระหว่างปริมาณ Upload / Download สำหรับคนใจดี Seed ที่ปล่อยไฟล์ให้ Leech มาดูดไปได้มากๆก็จะมีค่า Upload มากกว่า ส่วน Leech คนที่ดูดไฟล์แล้วจากไปไม่แบ่งใคร ค่า Download ย่อมมากกว่า ถ้ามากเกินไปอาจมีผลให้ถูกขับออกจากเว็บได้

เกือบลืมคำนี้ไปเลยครับ เป็นคำสำคัญสำหรับ Torrent ด้วยล่ะครับ นั้นก็คือ "Tracker"
เครือข่ายของ Torrent นั้นมีลักษณะโยงใยถึงกันหมด มี Tracker ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเก็บข้อมูลและสถิติต่างๆ ของผู้ร่วมใช้งาน, เสมือนประธานผู้ควบคุมการประชุม อย่างไรก็ตาม โปรแกรมบิททอร์เรนท์บางแบบ ไม่จำเป็นต้องมีแทรคเกอร์ ...

และอีกคำที่ขาดไม่ได้เลยครับคนไทยเรียกง่ายๆว่า Colo จริงๆแล้วย่อมาจาก Co-location ครับ ... หมายถึง ที่ๆจะให้คุณเช่าเพื่อฝากไฟล์สำหรับ Download และ Upload (แต่ส่วนมากมักจะเป็น Upload มากกว่านะ) ประโยชน์คืออะไร ? สำหรับคนที่ต้องการปล่อยไฟล์ใหญ่ๆ ให้คนโหลดได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องมาเปิดเครื่องท ี่บ้านทิ้งไว้นานๆ ก็ใช้บริการ Colo ล่ะครับ ส่วนมากแล้วคิดราคาเป็นรายเดือนกับความจุสำหรับที่ฝา กไฟล์

Colo ที่นี่มีแต่ Mac-Mini

สำหรับ การจะเล่น BitTorrent โดยไม่ใช้บริการ Colo ก็คงต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ที่บ้านเปิดทิ้งไว้ สำหรับไฟล์ใหญ่ๆอย่างหนัง Blu-ray แล้วก็คงต้องเปิดกันทั้งวันทั้งคืนล่ะครับ ... ผมรู็แล้วล่ะครับว่าคุณคิดอะไรอยู่ ? เปลื่องไฟ ! ร้อน ! และพังเร็ว ! กลัวนะแต่ก็อยาก ผมเลยอยากจะแนะนำคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับ BitTorrent ครับ คือคอมพิวเตอร์เล็กๆ ทำงานช้าๆ อย่าง Nettop หมายถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้ CPU ของ Intel-Atom ความสามารถต่ำเหมาะกับการเล่นเว็บ กินไฟน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ธรรมดา ร้อนน้อยเย็นนาน สบายใจหายห่วงได้เลยครับ

ASUS Eee ใช้ CPU ของ Intel-Atom อย่าหวังว่าจะเอาไปเล่นเกมได้

ถาม ตามมาว่า Case มันเล็กจังน่าจะร้อนง่ายนะ ? ใช่ครับ ถ้าอยากให้เย็นจริงๆนะ คงต้องหา Case ใหม่แบบที่ผมใช้อยู่ คือ GMC สีขาวระบายลมได้ดีมากครับ ... แล้วถ้าแบบนี้ยังไม่ถูกใจก็มีอีกทางเลือกครับ เหมาะสำหรับคนรวยเป็นพิเศษ คือ Mac-Mini ตอนนี้เป็น Intel Core 2 Duo ครับ

Apple Mac-Mini เมืองนอนนิยมเอาไว้ในรถ เป็นเครื่องเสียง ดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้ดีมากครับ

และ อีกอย่าง คือ ไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์เลยคือใช้ Router บางชนิดที่สามารถเชื่อมต่อกับ HardDisk ได้โดยตรง แต่ปัญหาอยู่ตรงที่บางรุ่นใช้ยากเข้าใจยาก กว่าจะโหลดได้คงใช้เวลานานล่ะครับ

จะเริ่มต้นกับ BitTorrent ก็ต้องมีโปรแกรมก่อน ... โปรแกรมสำหรับโหลด BitTorrent ในปัจจุบันที่นิยมมีอะไรบ้าง

ABC (Windows, Linux)
Azureus (Java-Universal)
BitComet (Windows)
BitLord (Windows))
BitTornado (Linux, BSD, Mac-OS, Windows, ฯลฯ)
BitTorrent (Linux, Mac-OS, Windows)
Burst! (Windows)
eXeem™ (Windows)
FlashGet (Windows)
KTorrent (Linux)
MLDonkey (Linux, BSD, Mac-OS, Windows, ฯลฯ)
Shareaza (Windows)
Tomato Torrent (Mac-OS)
Ziptorrent (Windows)
µTorrent (Windows)

จริงๆมีมากกว่านี้นะครับ ลักษณะเฉพาะตัวของโปรแกรมเหล่านี้ คือ "ฟรี!" ครับ ...

อ่านไปอ่านมาเหมือนผมกำลังส่งเสริมให้คนทำผิดละเมิดล ิขสิทธิ์อย่างไงก็ไม่รู้ มองได้หลายมุมนะครับถ้ามองว่าผมมาแจกความรู้ก็ดูดี แต่ถ้าส่งเสริมละเมิดลิขสิทธิ์ก็น่าเศร้าใจนะครับ